Home        About us       News / Events       A-Class Open Tournaments       Golf News       Contact Us      Booking On Line     Golfer Profile
Head Image
>> Yardage Book

>> จำนวนผู้เข้าชม 760 ครั้ง

เหตุใดนักกอล์ฟแข่งขัน ต้องใช้ Yardage Book

เหตุใดนักกอล์ฟแข่งขัน ต้องใช้ Yardage Book

เหตุใดนักกอล์ฟแข่งขัน

ต้องใช้ Yardage Book

 

          - Yardage Book สำคัญอย่างไร

          - ผู้ใดบ้างต้องใช้ Yardage Book

          - สาเหตุโปรกอล์ฟระดับโลกต้องใช้

          - ใช้กล้องวัดระยะคู่กับ Yardage book เป็นอย่างไร

          - คำถามที่พบบ่อยจากผู้ปกครอง

          - Yardage book สนามเดียวกัน มีความแตกต่างอย่างไร

          - วิธีการอ่าน LEGEND ใน Yardage book

          - ตัวอย่าง วิธีการใช้ Yardage book เพื่อลดสกอร์

          - ความเป็นมาของ Yardage book

 

Yardage Book สำคัญอย่างไร

          Yardage book คือคู่มือที่จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะกับรายการแข่งขัน (Tournament) นั้น ๆ โดยการทำเครื่องหมายสีต่าง ๆที่เป็นสัญลักษณ์ในแฟร์เวย์ ซึ่งเป็นระยะที่นักกอล์ฟแข่งขันควรตีไปในตำแหน่งที่ปลอดภัยตามทักษะความสามารถ และช๊อตต่อไปสามารถเล่นขึ้นกรีนได้ตามเลย์เอาท์แต่ละหลุม อีกทั้งแสดงจุดระยะที่อันตราย ไม่ควรตีลูกไป เช่น ระยะตกบังเกอร์ ระยะตกน้ำ  ระยะที่ลูกจะเข้าป่า และระยะที่ออกโอบี เป็นต้น

จุดเด่นของ Yardage book อีกประการหนึ่งก็คือ แสดงรูปลักษณ์ของกรีน ขนาดของกรีนว่ามีความลึก และกว้างเท่าใด บนกรีนมีลายสโลปพื้นที่ส่วนใด  ช่วยให้นักกอล์ฟตัดสินใจเล่น Approach shot ขึ้นกรีนได้ใกล้ธงมากที่สุด สโลปที่แสดงบนกรีนช่วยให้นักกอล์ฟมั่นใจการพัตยิ่งขึ้น นักกอล์ฟอาชีพระดับโลกจะแพ้หรือชนะ มักจะเป็นลูกบนกรีน ลูกเดินทางฝีมือใกล้เคียงกัน

ผู้ใดบ้างต้องใช้ Yardage Book

           Yardage book ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการ :-

          - ทัวร์นาเมนต์  เป็นการยกระดับมาตรฐานสากล

          - นักกอล์ฟแข่งขัน สามารถวางแผนการเล่นตามทักษะความสามารถ

          - นักกอล์ฟอาชีพ เข้ารอบแข่งขัน และเพื่อเงินรางวัลที่สูงขึ้น

          - แคดดี้อาชีพ โดยศึกษาเลย์เอาท์ ระยะจุดวางตัว(Landing Area)  
                                    สโลปบนกรีน ช่วยให้พัตได้แม่นยำขึ้น

          - โค้ชกอล์ฟ ช่วยวางกลยุทธการแข่งขันให้นักกอล์ฟแข่งขัน หรือทีมกอล์ฟ

สาเหตุโปรกอล์ฟระดับโลกต้องใช้

          - ช่วยให้การเล่นมีประสิทธิผลมากขึ้น

          - เนื่องจากมีเวลาที่ฝึกซ้อมในสนามแข่งขันนั้นน้อย

          - ศึกษา Layout จาก Yardage book ประกอบกับการออกซ้อม
             เพียงครั้งสองครั้งก็เพียงพอ

          - นักกอล์ฟฝีมือดีที่ตีลูกได้ระยะแน่นอน  และแม่นยำ เมื่ออ่าน Yardage
            ถูกต้อง แม่นยำแล้วจะได้ผลตามเป้าหมาย

          - ปัจจุบันนักกอล์ฟอาชีพระดับโลก และนักกอล์ฟอาชีพไทยทุกคนล้วนแล้ว
            ต้องอาศัย YARDAGE BOOK เพื่อวางแผนการเล่นแต่ละหลุม
            จนมีคำเปรียบ
เปลยกันว่า แข่งกอล์ฟไม่มี YARDAGE BOOK
            เหมือนปิดตาข้างเดียวขับรถ

 

ใช้กล้องวัดระยะคู่กับ Yardage book เป็นอย่างไร

          - นักกอล์ฟสมัครเล่น ใช้ไปกับกล้องวัดระยะ ยิ่งสร้างความแม่นยำ
             และมั่นใจขึ้นมาก

          - อุปกรณ์วัดระยะ ได้เพียงแนวระนาบ(horizontal)

           ถ้า Layout Dog leg หรือ Landing Area ต่ำระดับ Yardage book แสดง
           เป้าหมายได้ชัดเจน

                                          

คำถามที่พบบ่อยจากผู้ปกครอง

          คำถามเกี่ยวกับ Yardage book จากนักกอล์ฟแข่งขันสมัครเล่น และผู้ปกครอง

คำถาม   Yardage book ของโปร หรือของรายการอื่น ในสนามกอล์ฟเดียวกัน
                ใช้กันได้หรือไม่

คำตอบ   ใช้กันได้ แต่ได้เพียงบางส่วน ได้แก่

            แฟร์เวย์ -   รูปร่าง ขนาด ตำแหน่งบังเกอร์ ทะเลสาบ-ลำธาร เนิน ต้นไม้

            กรีน  - รูปร่าง ขนาด สภาพสโลปบนกรีน

            นอกเหนือจากนั้น นักกอล์ฟแข่งขันควรไปมาร์คจุดระยะของตนเอง   Landing area ที่แสดงด้วยจุดสีตามระยะต่าง ๆใน Yardage book อาจจะแตกต่างกับตัวนักกอล์ฟ ดังนั้นในวันซ้อม ควรวัดระยะของตัวนักกอล์ฟเองใหม่  เน้นจุด approached shot

คำถาม  Yardage book สนามกอล์ฟเดียวกันแต่เป็นของรายการเก่า ใช้กันได้หรือไม่

คำตอบ เหมือนคำตอบแรก ใช้กันได้ แต่ได้เพียงบางส่วน ได้แก่รูปร่างแฟร์เวย์ และสภาพบนกรีน เอกลักษณ์ของ Yardage book คือการจัดทำเป็นเฉพาะให้แก่แต่ละรายการ กลุ่มนักกอล์ฟมีทักษะความสามารถแตกต่างกันไป แม้จะเป็นสนามเดียวกัน นักกอล์ฟแข่งขันเหมือนกัน แต่ผู้จัดทำ Yardage book จะดูสถิติระยะไดร์ฟและระยะขึ้นกรีนแต่ละหลุม มาปรับระยะ Landing area และ approached shot ใหม่

 

วิธีการอ่าน LEGEND ใน Yardage book

B.O.T.= Back of Tee คือเครื่องหมายอยู่ท้ายแท่นที ระยะเริ่มที่ 0 หลาของหลุม จนถึงหน้ากรีน

F.O.G = Front of Green คือเครื่องหมาย T หรือ -หรือเป็นจุดกลมอยู่หน้ากรีน
เป็นระยะสุดท้ายจากจุดApproach to และเป็นจุดเริ่มต้นที่ 0 หลาของกรีน

B.O.G. = Back of Green จุดหลังสุดของกรีน

Slope = สโลปตามลูกศร   Grids =ลายตาแกรง  

Green Depth = ความลึกของกรีน

P.S.F = Painted Symbols on Fairways

คือจุดสีต่าง ๆที่เป็นสัญลักษณ์ในแฟร์เวย์

มีดังนี้ ขาววงแดง เหลืองวงแดง แดงวงเหลือง เครื่องหมายบวก + เหลืองวงแดง  
เครื่องหมายบวก + แดงวงเหลือง เครื่องหมายบวก + ขาววงแดง  สี่เหลี่ยมขาวขอบแดง 
สี่เหลี่ยมเหลืองขอบแดง สี่เหลี่ยมแดงขอบเหลือง สามเหลี่ยมเหลืองขอบแดง 
สามเหลี่ยมแดงขอบเหลือง สามเหลี่ยมขาวขอบแดง

หมายเหตุ : เนื่องจากสีพ่นพื้นแฟร์เวย์มักจะใช้กันเพียง 3 สี คือ ขาว เหลือง แดง(สีเขียว
และสีน้ำเงินใช้ประโยชน์อื่น) จึงทำเป็นสัญลักษณ์ เรขาคณิต ให้ดูแตกต่างได้มากที่สุด 
4 แบบ 3 สี = 12 สัญลักษณ์

Compass คือเข็มทิศแสดงทิศทางของแฟร์เวย์ไปกรีน

Drain คือฝาท่อระบายน้ำ

Penalty Area คือพื้นที่ปรับโทษ อาจเป็นทะเลสาบ ลำธาร บ่อน้ำ

Elevation  คือพื้นที่ยกระดับ

Sprinkler คือเครื่องฉีดน้ำ

Bunker คือบังเกอร์ หรือบ่อทราย

ระยะ มีหน่วยเป็นหลา   สเกลของกรีน 3/8 ต่อ 5 หลา

 

 

ตัวอย่าง : Yardage Book สนามกอล์ฟมาเจสติค ครีก หลุม 1 พาร์ 4

-ระยะหมุดน้ำเงิน 418 Y , หมุดขาว 382 Y ,หมุดเหลือง 343 Y หมุดแดง 313 Y 

- BOT. ระยะเริ่มที่ 0  บนแต่ละ แท่นที

- แฟร์เวย์ขวา ระยะ 260 หลา ตกบังเกอร์แรกขวา

- นักกอล์ฟสมัครเล่น ระยะไดร์ฟเฉลี่ย 250-280 หลา

- ถ้าไดร์ฟ 250 หลาลูกอยู่จุดเหลืองวงแดง เหลือระยะ 163 หลาถึงหน้ากรีน

- ถ้าไดร์ฟ 280 หลาลูกอยู่จุดแดงวงเหลือง เหลือระยะ 130 หลาถึงหน้ากรีน 

- จุดกากบาทเหลืองวงแดง  เหลือระยะ 104 หลาถึงหน้ากรีน

- จุดกากบาทแดง พื้นที่เป็นเนิน เหลือระยะ 74 หลาถึงหน้ากรีน

- กรีนลึก 35 หลา กว้าง 24 หลา

- กลางกรีนขวา 13 -18 สโลปขวา ต่ำลงมาสโลปไหลลงไปหน้ากรีน

- กรีนด้านซ้าย 10 – 14 เป็นเนิน

- กรีนด้านขวา 20 เข้ากลาง 25 ไปทางซ้าย มีสโลปไหลลงเล็กน้อย

- ตำแหน่งธง ให้ดูจาก Hole Location ที่แจกให้นักกอล์ฟ

- นักกอล์ฟแข่งขัน ควรวางแผนการเล่นตามทักษะความสามารถ

- การทำ GIR = Green in Regulation  ควรวางตำแหน่งที่ปลอดภัย

ระยะอาจสั้นไปบ้าง แต่ควรอยู่ในแฟร์เวย์กว้างๆเข้าไว้

คำแนะนำ :

 นักกอล์ฟแข่งขัน ควรเล่นตามทักษะความสามารถของตนเอง  เลย์เอาท์แต่ละหลุม ใน Yardage Book จะมีจุดหลายระยะ เผื่อไว้สำหรับนักกอล์ฟที่มีระยะไดร์ฟที่ต่างกันอยู่แล้ว เน้นการเดินทางที่ปลอดภัย แล้วไปลดสกอร์บนกรีน

หมายเหตุ :

ดูกฎสนามประกอบ แนวป่าซ้าย-ขวา เป็นพื้นที่ปรับโทษหรือไม่

 

ตัวอย่าง : Yardage Book สนามกอล์ฟมาเจสติค ครีก หลุม 10(B1) พาร์ 4

-ระยะหมุดน้ำเงิน 378 Y , หมุดขาว 358 Y ,หมุดเหลือง 317 Y หมุดแดง 260 Y 

- BOT. ระยะเริ่มที่ 0  บนแต่ละ แท่นที

- หน้าแท่นที เป็นทะเลสาบ(พื้นที่ปรับโทษ)

- ถ้าไดร์ฟ 250 หลาลูกอยู่จุดเหลืองวงแดง เหลือระยะ 108 หลาถึงหน้ากรีน

- ถ้าไดร์ฟ 270 หลาลูกอยู่จุดแดงวงเหลือง เหลือระยะ 76 หลาถึงหน้ากรีน 

- จุดกากบาทเหลืองวงแดง  เหลือระยะ 56 หลาถึงหน้ากรีน

- จุดกากบาทแดง พื้นที่เป็นเนิน เหลือระยะ 33 หลาถึงหน้ากรีน

- กรีนลึก 34 หลา กว้าง 30 หลา

- หน้ากรีนขึ้นไป 11 สโลปขวา ไหลลงไปหน้ากรีน

- กรีนด้านซ้าย 15 – 23 เป็นเนิน

- กรีนด้านขวา 8 -23 มีสโลปไปซ้าย

- ตำแหน่งธง ให้ดูจาก Hole Location ที่แจกให้นักกอล์ฟ

- นักกอล์ฟแข่งขัน ควรวางแผนการเล่นตามทักษะความสามารถ

- การทำ GIR = Green in Regulation  ควรวางตำแหน่งที่ปลอดภัย

ระยะอาจสั้นไปบ้าง แต่ควรอยู่ในแฟร์เวย์กว้างๆเข้าไว้

คำแนะนำ :

 - นักกอล์ฟแข่งขัน ควรเล่นตามทักษะความสามารถของตนเอง  เลย์เอาท์แต่ละหลุม ใน Yardage Book จะมีจุดหลายระยะ เผื่อไว้สำหรับนักกอล์ฟที่มีระยะไดร์ฟที่ต่างกันอยู่แล้ว เน้นการเดินทางที่ปลอดภัย แล้วไปลดสกอร์บนกรีน

- ไม่จำเป็นต้องตีตัดน้ำมากไป เพราะมีต้นไม้ และบังเกอร์ดักระยะ 270 Y

หมายเหตุ :

ดูกฎสนามประกอบ แนวป่าซ้าย-ขวา เป็นพื้นที่ปรับโทษหรือไม่

 

 

 

ความเป็นมาของ Yardage book

          YARDAGE BOOK เป็นส่วนสำคัญในพีจีเอทัวร์ตั้งแต่ JACK NICKLAUS เริ่มใช้คู่มือเหล่านี้ในปี 1970

วิธีการสมัยนั้น

          แคดดี้อาชีพ(Tour Caddies) จะมาถึงสนามกอล์ฟแข่งขันล่วงหน้า ประมาณสัปดาห์ก่อนการแข่งขัน เขาทำเลย์เอ้าท์แต่ละหลุม  แคดดี้อาชีพจะมาร์คจุดระยะไดร์ฟ และระยะขึ้นกรีนของนักกอล์ฟแข่งขันเฉพาะตัว และหยุดทุกระยะจากเป้าหมายที่ระบุ และทำรูปร่างกรีน และสโลปบนกรีนด้วยสายตา

นักกอล์ฟอาชีพปรับปรุง

          นักกอล์ฟอาชีพจะแก้ไข YARDAGE BOOK จากแคดดี้ที่ทำไว้ให้  หรือจาก YARDAGE BOOK ที่กำหนดเองตามที่เคยเล่น และบันทึกการแข่งขันไว้ เช่น เก็บไว้ในไดอารี่ปีก่อน ๆ

การเริ่มแพร่หลายเป็นวิทยาการ

          เมื่อ YARDAGE BOOK ได้รับความนิยม  เป็นความต้องการของพวกนักกอล์ฟอาชีพ  เริ่มมีผู้เชี่ยวชาญจัดทำ YARDAGE BOOK จัดจำหน่ายให้กับนักกอล์ฟดาวรุ่ง(ROOKIES)มือใหม่และนักกอล์ฟอาชีพหน้าใหม่ ๆ และทำให้ YARDAGE เป็นธุรกิจกอล์ฟแขนงหนึ่ง  ช่วงเวลานั้น YARDAGE BOOK เหมือนทองคำ และมีเพียงผู้เล่นทัวร์ที่มีการ์ดของพวกเขาเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ซื้อหนังสือที่กำหนดเอง ณ วันนี้แคดดี้อาชีพ และแชมป์นักกอล์ฟอาชีพหลายคนเก็บ YARDAGE BOOK รวมไว้ในห้องเดียวกับถ้วยรางวัลสำหรับทัวร์นาเมนต์ ผู้เล่นจะถูกกดดันอย่างหนัก เมื่อผู้เล่นคนใดในทัวร์ ที่ไม่ได้พก Yardage Book ไว้ในกระเป๋าหลังของพวกเขา

กล้องวัดระยะ ทดแทน YARDAGE BOOK ได้ไหม

          มีผู้เล่นบางคนอาจคิดว่าเทคโนโลยีใหม่จะทดแทน และยุติความต้องการ YARDAGE BOOK  แต่ความเป็นจริงตรงกันข้าม  แม้ความสามารถในการใช้เลเซอร์เรนจ์ไฟน์เดอร์   หรือดาวเทียมจีพีเอสได้ สิ่งที่นักกอล์ฟได้เพียงระยะในแนวนอน  ยังขาดอีกหลาย ๆสิ่งที่ YARDAGE BOOK มีในการช่วยเกมการแข่งขันให้ลดสกอร์ได้

*********************************

         

31/10/2021

 

 
 
 
ติดต่อเรา
wichitttt
-
 
A-CLASS SPORT CO.,LTD.
52/91 ซอยกรุงเทพกรีฑา 15 แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10250
Mobile. 089-123-1271 , 089-892-4715
Email. aclassgolf@gmail.com,
Website Golf, AClassGolf, Golf Organizer, Golf, กอล์ฟเยาวชน ,
การแข่งขันกอล์ฟ, แข่งกอล์ฟเยาวชน, กีฬากอล์ฟ
สถิติผู้เข้าเยี่ยมชมเวบ         | Copyright ©2016 - All Rights | www.aclassgolf.com